ผ่าคลอดไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

จริงๆ ชีวิตก็ผ่านอะไรมามากมาย ถ้าจะให้เล่าเรื่องศัลยกรรมก็มีประสบการณ์เพียบ แต่ขอเปิดเรื่องแรกเป็นการผ่าคลอดก่อนล่ะกัน

 

ทำไมถึงเลือกผ่าคลอด?

เพราะ… ไม่สามารถทนการเจ็บปวดแบบรอเวลานานๆ ได้ ไม่มีความอดทนขนาดนั้น  ใช่สิ !! บางคนอาจมองว่าเป็นแม่คนทำไมแค่นี้ไม่อดทน ก็เดี๊ยนสะดวกแบบนี้อ่ะค่ะ ไม่ชอบรอ ไม่ทน วิวัฒนาการทางการแพทย์ก็มีให้เลือก เราก็เลือกตามที่เราสะดวก อยากให้ลูกเกิดตามฤกษ์ที่มีนั้นคือ  10/ 10/ 10 เลขสวยขนาดนี้ ยิ่งเวลา 0.10 น.ด้วยแล้ววววว…. ค่ำคืนนั้นคงเต็มไปด้วยความสุขสุดๆ (ฝันแปบ)

 

แต่เดี๋ยวก่อน .. ก่อนจะแฮปปี้เอนดิ้ง กิงก่องแก้ว ครรภ์ของเราอายุไม่ได้ 40 วีคเต็ม แต่เข้าวีคที่ 38 กว่า สามารถผ่าตัดได้ตามฤกษ์ที่มี คุณหมอก็ให้ไปเลือกมา ตรงนี้ไม่ใช่จุดพีคค่ะ ความหรรษาอยู่ที่เป็นสะใภ้คนจีนจ้า………

แล้วกฎของทางบ้านมีดังนี้คือ

ไม่ต้องการให้คลอดวันอาทิตย์ กลัวเด็กจะใจร้อน อารมณ์ร้อน

ไม่ต้องการให้คลอดวันจันทร์ กลัวเด็กจะเจ็บ จน

ไม่ต้องการให้คลอดวันพุธ กลัวพวกเกี่ยวกับราหู

ดังนั้นเราจะเหลือวัน .. อังคาร พฤหัส ศุกร์ เสาร์ (เสาร์นี่วันเดียวกับอาม่าไง เลยรอด)

 

ใกล้ฤกษ์คลอดมาถึงซึ่งเล็งไว้วันอาทิตย์ 10 ตุลาคม 2553 ( 10/10/10) จองคิว จองทุกอย่างเรียบร้อย แต่ทำไงดีวะให้เจ็บท้อง ท้องแรกด้วย ไม่เจ็บท้องจะออกจากบ้านแฟนไปรพ.ได้ไง ???  ผู้ใหญ่ต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ เอาวะ กระโดดเล่นเกมส์ Just Dance ของ WII สะเลย  ผ่านไป 30 นาที แม่งเอ๊ย.. น้ำไม่ออก เหงื่อแตกแทน ต้องมาเตี๊ยมกับแฟนว่าเราต้องโกหกกันเพื่อจะออกไปผ่าให้ทัน ช่วงนั้นก็เลยทำเป็นเจ็บๆ ซึมๆ หน้าหมาหงอย แล้วแฟนก็พาไปรพ.ทันที ไปถึงที่นู่นได้ห้องนอนเตรียมตัวผ่า

นึกว่าจะจบ ไม่จบจ้า……

ญาติแฟนดันไม่สบายต้องเข้ารพ.ด่วน  ดันมารพ.เดียวกันอี๊ก ตอนนั้นเลือก รพ.พญาไท 3 เพราะใกล้บ้านสุด ฝากครรภ์ ทำทุกอย่างก็ที่นี่มาตลอด ณ นาทีนั้นซวยล่ะกู แม่แฟนก็ต้องมา แฟนก็เครียดล่ะ เอาไงดีวะ หาเหตุผลกันใหญ่ มารพ.แล้วยังไม่คลอด มันต้องอะไรยังไง คิดสมองแตก ก็หาทางปัดๆ ไปว่าเดี๋ยวค่อยมาเจอกันก็ได้ไรงี้  เฮ้อออออออ…

เอาล่ะเมื่อได้อยู่ในห้องพักนางพยาบาลก็มาให้เราเตรียมตัว ซึ่งการเตรียมตัวก็โกนขน เจาะเลือด วัดความดัน ซึ่งเขียนเกี่ยวกับความประทับใจวันคลอดลูกคนแรกไว้ในลิงค์นี้ล่ะค่ะ

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=beauty-jeban&date=21-10-2010&group=38&gblog=17

แต่ที่จะมาเล่าแยกคือ ความเจ็บปวด ความรู้สึกของการผ่าคลอดอ่ะจ้ะ

(ภาพประกอบ : สายน้ำเกลือมมีปัญหาตอนรอผ่า เลือดเลยไหลออกมาน่ากลัวมาก)

ฝนเลือกแบบบล็อกหลัง ผ่าคลอด ความรู้สึกคือ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่รู้สึก ชิลมาก เหมาะกับคนที่สะดวกแบบนี้ เน้นความรวดเร็ว ทันใจ ตอนผ่าก็ยังคุยสนุกสนาน เมื่อรู้ว่าเลือกผ่าคลอดก็จะไม่ดูคลิปต่างๆ เกี่ยวกับการผ่าคลอดเลยเพื่อป้องกันการมโน ตอนคุณหมอลงมีดก็ไม่รู้สึก มีแค่หลังออกจากห้องผ่าตัดเกิดอาการคันตามตัวเพราะฤทธิ์ของยาบล็อกหลังแล้วก็หาย วันที่ 2 หรือ 3 นี่ล่ะเอาสายฉี่ที่สวนให้เราออกแล้วถึงเดินไปฉี่เอง ไปหาลูกเองเพื่อให้แผลไม่เกิดพังผืด สมัยนั้นนะไข้หวัด 2009 กำลังระบาด คุณแม่อย่างเราจำเป็นต้องเดินพาเพื่อน พาญาติไปดูลูกที่ชั้นเด็กแรกเกิด (น่าจะชั้น 3 หรือ 4 จำไม่ได้ล่ะ แต่เราอ่ะชั้น 7 มั้งนะ ก็ไกลอ่ะแต่ต้องเดิน) อุปสรรคมีแค่ความกลัวว่าแผลจะฉีก แต่เป็นไปไม่ได้เพราะหมอทำแผลดีมากๆ เดินบ่อยๆ ก็ทำให้ไส้และระบบภายในเข้าที่หายไวจริงตามที่หมอบอก

เมื่อถึงวันที่ 4 ก็ออกจากรพ. จำได้ว่าความเป็นสะใภ้คนจีนโคตรสตรอง ต้องอดทนสุดๆ กับภาวะที่ห้ามซื้ออะไรมาเตรียม ดังนั้นลูกคลอดแล้วจึงไม่มีอ่างอาบน้ำ ไม่มีแพมเพิส NB ทำให้ต้องขับรถไปซื้อเองที่เซนทรัล (โหดสัด รัสเซีย ไนจีเรีย อินโดนีเซียสุดๆ) แฟนก็อยู่ดูลูกไป อย่าไปใช้เขาเลยเดี๋ยวมีปัญหา ไปเองนี่ล่ะ

แผลหลังผ่าคลอดจากท้องแรกสิ่งที่สะเทือนใจมาก คือ รีบใส่กางเกงยีนส์เกินไป รีบใส่สเตย์รัดๆ (ภายใน 1 เดือน) แหมๆๆ ก็อยากเป็นคุณแม่หุ่นเข้าที่ไว จึงรัดหน้าท้องทำทุกอย่างให้พุงหาย สรุปแผลนูน คีรอยด์ขึ้นเป็นกิ่งแดงนูน เจ็บใจตัวเองมาก ทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดี รีบแรดไปไหน ด่าตัวเองให้เจ็บใจเล่น ก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวท้อง 2 จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งถ้าใครได้อ่านเรื่องเล่าผ่าคลอดท้อง 2 จะบอกวิธีจัดการรอยแผลผ่าตัดให้จ้ะ เพราะตอนนี้คิดว่าคุ้มมากที่อดทนดูแลแผล 5 เดือนจนหายดียังกะเส้นผมบางๆ ไม่มีรอยให้รู้สึกกวนใจอีกเลย

ท้องแรกนี้ไม่ได้อยู่ไฟนะจ๊ะเพราะไม่เชื่อ ด้วยความไม่เชื่อจึงลองของ “ก็ไม่อยู่อ่ะจะทำไม??” ไปทำสปาค่ะซึ่งไม่เหมือนกัน  ผลที่ได้จึงเข้าใจโลกมากขึ้นว่าควรจะอยู่ไฟท้อง พอไม่ได้อยู่ไฟอาการเป็นดังโบราณบอกเล่าแม่เจ้าประคูณเอ๋ยยยย… หนาวมาก สะท้านผิวสุดๆ ยันกระดูกเวลาที่อากาศเปลี่ยน ฝนจะตก เข้าห้องแอร์ไรงี้ หนาวก่อนชาวบ้านจนกลายเป็นคนที่ชอบอยู่ร้อนๆ แทน เดี๋ยวพอท้อง 2 คลอดแล้วจะมาเล่าให้ฟังว่าทำแล้วฟินแค่ไหน ตอนนี้กลายเป็นคนปกติแล้วค่ะ

 

ไว้มาเล่าต่อถึงเหตุการณ์คลอดลูกคนที่ 2 ในโพสต่อไปจ้ะ 😊

มื้อเช้า..มื้อสำคัญที่คุณแม่ไม่พลาด !!

.. สวัสดีค่า ..  

ฝนไม่ได้อัพบล็อคนานละ หลายท่านคงทราบกันดีว่าฝนค่อนข้างยุ่งมาก ทั้งลูกชายคนเล็กคนโตกำลังซนเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ฝนได้ไปเที่ยวพัทยาเป็นทริปพิเศษวันเกิดฝนเอง จึงถือโอกาสพาลูกไปเที่ยวด้วยหลังจากที่เค้าตั้งใจสะสมความดี

แต่เพิ่งพบประโยชน์ของอาหารเช้าแบบกล่องอย่าง CORN FLAKES ที่ช่วยให้การเที่ยวครั้งนี้สนุกไร้กังวลเรื่องอาหารการกินมากขึ้น

FK1ในวันที่เราไปเที่ยวไปพักผ่อน หลายบ้านคงหวังว่าลูกจะทานอาหารของโรงแรมใช่ไหมคะ?

สำหรับบ้านเราแล้วพอถึงที่เที่ยวไม่เป็นแบบนั้น อานะ (ลูกชายคนโต) จะไม่ยอมกินข้าวแทบทุกมื้อ ถ้ากินก็ต้องบังคับจนแม่นี่อิ่มข้าวไปก่อนและ เพราะมัวแต่ป้อนข้าวลูก (เดิมทีเขาเป็นเด็กกินยากเลือกทาน)

ซึ่งทุกเช้าที่บ้านเราจะเน้นเป็นอาหารพวกกับข้าว+ข้าวสวย พอมาถึงโรงแรมในวันที่สนุกสนานแบบนี้ แม่เองก็ไม่อยากให้เสียบรรยากาศยามเช้าเลยแก้สถานการณ์ซื้อ CORN FLAKES จากห้างมาติดไว้แล้วให้เค้าทานคู่กับนมจืดที่ชอบแทนที่จะกินอาหารโรงแรม

ปรากฎว่าดีงามค่า……. อานะกินเองจนหมดภายใน 10 นาที ตัดปัญหาเรื่องการบังคับให้กินอาหารโรงแรมในเวลาที่เร่งด่วนก่อนจะไปเล่นน้ำยามเช้า ซึ่งอานะมักมีปัญหาตลอดดดดดดดดดดด (เป็นทุกโรงแรม แม่กลุ้ม)

cornแต่พอมาเป็นโหมดวันปกติที่ต้องไปโรงเรียน จึงเปลี่ยนอาหารเช้าแบบเดิมๆ ให้เป็น CORN FLAKES ดูบ้าง ปรากฎว่าผลตอบรับดีค่ะ อานะกินอาหารเช้าแบบนี้ได้หมดในเวลาที่รวดเร็วกว่ากินข้าวปกติและทันเวลาขึ้นรถไปโรงเรียนทุกเช้า

เรื่องอาหารการกินอยากให้ทุกบ้านใส่ใจโดยเฉพาะอาหารเช้า เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ที่เราจะได้ทานมื้อเช้าอย่างมีประโยชน์  จริงๆ อาหารเช้าซีเรียลแบบกล่องในบ้านเรามีหลากหลายยี่ห้อมาก โดยทั่วไปมองแล้วคงคิดว่ายังไงก็คล้ายกัน แต่ฝนเลือกจากประโยชน์สูงสุด จึงเลือกของ Kellogg’s เพราะสมัยเด็กๆ เราก็ชอบกินนะ อีกอย่างในซีเรียลยี่ห้อนี้มีสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ 8 ชนิด มีทั้ง วิตามินเอ ช่วยในการทำงานของตา ทั้งเรื่องของผิวหนังและเยื่อบุผิว


วิตามินบี 1 – ช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตโปรตีนและไขมัน และสร้างพลังงานให้ร่างกายได้ใช้อย่างเต็มที่ค่ะ

วิตามินบี 2 – ประโยชน์คือช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตและการบรรเทาความเมื่อยล้าของสายตา

วิตามินบี 3 และ 6 – ช่วยในการเผาผลาญ คาร์โบไฮเดรตไขมันและโปรตีน

วิตามินบี 9 – ช่วยในการเจริญเติบโตและการก่อตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง

วิตามินซีเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากสารอาหารในแหล่งอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์

ธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์เม็ดเลือดแดง พาออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย ช่วยให้มีการทำงานของสมอง ง่ายๆ คือบำรุงเลือดนี่เอง

วันนี้ฝนขอนำเสนอเมนูง่ายๆ ให้คุณแม่ท่านที่สนใจลองไปทำให้เจ้าตัวเล็กที่บ้านทานดูนะคะ 

เริ่มจากนำ Yogurt 1 ถ้วย เอามาใส่กับ Kellogg’s Corn Flakes

FK2เอามาผสมกันเลยค่ะ จริงๆ แค่ Kellogg’s Corn Flakes กับ Yogurt ก็น่ากินแล้ว  (^_^)

FK3ลองซักคำมั้ยคะ ขอบอกว่ามันดีงามมาก เป็นเมนูมื้อเช้าง่ายๆ ที่สบายแรงคุณแม่ แต่มีประโยชน์สุดๆ

FK4ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ลองทำดูใส่ส่วนผสมตามใจชอบของตัวเองได้เลย

ถ้าชอบผลไม้ก็ใส่ผลไม้ลงไป เช่น สตรอเบอร์รี่ กีวี่ หรือมะม่วงสุกช่วยเพิ่มรสชาติได้ดี

และถ้าไม่อยากให้จำเจอาจใส่นำนมเปรี้ยวรสผลไม้ต่างๆ แทนโยเกิร์ตหรือนมสดได้เช่นกัน

FK5เห็นมั้ยคะ อาหารเช้าง่ายๆ แต่มีประโยชน์

ถึงจะมีเวลานิดเดียวใครๆ ก็ทำได้ค่ะ ลองดูนะคะ

FK6

เด็กช่างถาม…ต้องเจอถามกลับ

สำหรับแม่ที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องมานั่งเลี้ยงเด็กเล็ก ก่อนท้องไม่ได้ปลื้มเด็กมากมายประหนึ่งนางสาวไทย คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่าการเลี้ยงเด็กมันยากยิ่งกว่าหัดขับรถ มันไม่ง่ายที่จะสรรหาคำตอบมานั่งตอบไปวันๆ เด็กมักมีคำถามว่าทำไมๆๆๆ และก็ต้องเค้นคำตอบให้ได้สินะ อืม… คำตอบที่ให้เด็กนั้นจำเป็นต้องมีสาระอยู่ด้วย เคยอ่านหนังสือ “สมองลูกออกแบบได้ด้วยพ่อแม่” ของ นพ.ดุสิต ลิขนะพิชิตกุล การพูดคุยกับลูกเป็นสิ่งดี สมองเด็กจะพัฒนาและรู้จักคิดตาม การหัดให้เด็กรู้จักคิดก็เพิ่มรอยหยักในสมองได้

“ก.ไก่ เป็นแค่สัญลักษณ์หนึ่ง ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย จะให้เด็กเรียนรู้ได้ดีต้องให้เด็กใช้สมองคิด ให้เด็กสังเกตสิ่งรอบตัว เห็นอะไร เป็นอย่างไร ให้พูดออกมา หรือให้วาดออกมา จากนั้นให้ถามคำ ถามให้สมองคิด อย่าไปถามง่ายๆ แบบ..ใช่ไหม? นี่อะไร? คำถามปลายปิดพวกนี้เป็นคำถามที่มีถูกผิด ใช้ความจำตอบไม่ต้องคิด จะถามให้เด็กฉลาดต้องถามยากๆ ถามให้คิดและเป็นคำถามที่ตัดสินถูกผิดไม่ได้ เช่น ทำอย่างไ? เอาไปทำอะไรได้บ้าง? เพราะอะไร?” บทความส่วนหนึ่งจากหน้า 92-93 ในหนังสือ”สมองลูกออกแบบได้ด้วยพ่อแม่”

10011520_10152297805812416_622724316_n

ทุกวันนี้ฝนลองใช้กับอานะใช้ได้ผลนะคะ จากที่เป็นเด็กพูดมาก พูดไม่หยุด พูดไปเรื่อย อานะเริ่มบอกเหตุผลของสิ่งต่างๆ ได้หลังจากที่พูดเยอะเช่นเคย (แต่มีสาระขึ้นมาหน่อย) เช่น อานะรู้ไหมเด็กดื้อเป็นยังไง? รู้ครับ อานะไม่เด็กดื้อนะ เพราะถ้าอานะดื้อ Postman จะมาเอาของเล่นไป อานะจะไม่มีเล่น เด็กดื้อเป็นเด็กที่ชอบตะโกน เล่นของเล่นแล้วไม่เก็บ ไม่อาบน้ำ ฯ

อานะเป็นเด็ก 4 ขวบ ที่ช่างเจรจามากกกกกกกกกกกกก อยากรู้ อยากเห็น ช่างสังเกต และชอบเจอสิ่งแปลกใหม่ พ่อแม่ได้แต่คอยส่งเสริมพัฒนาการให้ดียิ่งขึ้น ทั้งพาไปเปิดหูเปิดตา หาสิ่งใหม่มาเพิ่มเติมให้การเรียนรู้สนุกสนานน่าสนใจจะได้ไม่เบื่อ เมื่อถามมาก็ตอบไป โดยจะเน้นคำตอบให้เป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด หากตอบไม่ได้ก็เปิดหนังสือหรือหาความรุู้จากสื่อต่างๆ เพื่อหาคำตอบร่วมกัน

สุดท้ายนี้อยากฝากว่าอย่าทิ้งลูกให้อยู่กับสื่อมากไปในช่วงวัย 1-7 ขวบ บางครั้งเด็กแยกแยะเองไม่เป็น โตกว่านี้อาจเข้าใจเพราะทางรร.คงสอนมากขึ้น สื่อให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ได้แต่ก็มีโทษร้ายแรงเช่นกันไม่ว่าจะเป็นแท๊ปเล็ตหรือทีวี ในวัยที่บริสุทธิ์เช่นนี้อยากให้เลี่ยงละครโทรทัศน์ที่มีเนื้อหารุนแรง ด่าทอหรือตบตี (ถ้าทำได้จะดีมาก) ร้อยทั้งรอยเด็กจำและนำไปเลียนแบบถ้าผู้ใหญ่เห็นพฤติกรรมแล้วยังเฮในการกระทำที่คล้ายในทีวีของเด็กว่าเป็นเรื่องตลกสนุกสนาน นับว่าค่อนข้างลำบากหากต้องมาอบรมหรือเกลาทีหลัง เพราะเค้าจะคิดว่าผู้ใหญ่ส่งเสริมจากบ้านก็น่าจะโอเคนิ?!! ฮึฮึ.. น่ากลัวน๊าาาา ดูเด็กวัยรุ่นสมัยนี่สินิดหน่อยก็ใช้กำลังมากว่าเหตุผล เดี๋ยวตบ เดี๋ยวยิง อัดคลิปประจาน เฮ้ออ.. เพลีย

1525291_10152202101592416_2059582455_n

เอาเป็นสังคมที่ดีเริ่มจากในบ้าน

อย่าให้เด็กในวันนี้เป็นเป็นภาระของสังคมใหญ่

ที่มีผู้คนมากมายร่วมเผชิญชะตากรรมด้วยกันในภายภาคหน้าเลย

1601516_10152279597202416_2054922852_n

เลี้ยงลูกแบบอานะ : ตอนสื่อในยูทูปสำหรับเด็กเล็ก (1)

เกริ่นนำ :: เนื้อหาในบทความนี้เป็นสื่อการเรียนรู้จากยูทูปที่เลือกให้อานะดูในช่วงอายุ 3-4 ขวบ ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มีผปค.ดูแลด้วยอย่างใกล้ชิด 

02-applying-moisturizer-lgn

อานะเป็นเด็กที่มีความสามารถอ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้เอง 80% ด้วยการเดาคำจากการเรียนรู้สื่อที่ฝนเลือกในยูทูปให้ บางครั้งการสอนเองก็เป็นเรื่องยากซึ่งไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไร ดังนั้นฝนจึงเลือกที่จะสอนด้วยตนเองผสมสื่อในยูทูปควบคู่กันไป

***ไม่แนะนำให้ทิ้งเด็กไว้กับไอแพตหรือคอมพิวเตอร์ที่เปิดยูทูป ผปค.ควรแนะนำอยู่ใกล้ๆ ถ้าอะไรที่เด็กไม่เข้าใจควรสอนควบคู่กันได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันเด็กกดลิงค์ไปยังเนื้อหาอื่นที่ไม่เหมาะสม***

จุดเริ่มต้นช่วง 2 -3 ขวบ ฝนขอแนะนำความรู้พื้นฐานดังนี้ เป็นเนื้อหาที่อานะใช้เป็นประจำ เน้นภาพช้า ไม่เคลื่อนไหวเร็ว เพราะเกรงจะมีปัญหากับสายตาในการสลับภาพที่ไวมากเกินไป ใช้คำศัพท์ที่ง่าย ซึ่งหากเด็กได้ตรงนี้แล้วจะมาต่อยอดในขั้นตอนต่อไปที่ฝนจะมาแนะนำภาค 2 ได้

ฝึก ABC และ Phonics

เหมาะกับ 2 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/playlist?list=PLE51B4A79EF8FE61A (เพลงช้า เข้าใจง่าย)

https://www.youtube.com/watch?v=78adKwdgjdY (เพลงช้า เข้าใจง่าย)

https://www.youtube.com/watch?v=GSyKf_Wiobs&index=2&list=PLxo-dln5FAAKJ1ltHh5svKqlrBzQWxj29 (ภาพช้า เข้าใจง่าย)

เหมาะกับ 3 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/playlist?list=PLE51B4A79EF8FE61A (เพลงเร็ว เข้าใจง่าย)

https://www.youtube.com/watch?v=Tif2a8vXeAA&list=PL9bsPVRSg1snN6HWgjJIDHEep90jf1B1c (เพลงช้า แต่เนื้อหาเยอะ)

https://www.youtube.com/watch?v=unEdkv4p5eM&list=UUbCmjCuTUZos6Inko4u57UQ (เพลงช้า เข้าใจง่าย)

https://www.youtube.com/watch?v=95FagAd2pVY&list=PLxo-dln5FAAKx91S3zAdEy15y1tXGJoy8 (เนื้อหาเยอะ แต่มีภาพเข้าใจง่าย)

https://www.youtube.com/watch?v=o5iQCzuMZU0&list=PLT1rvk7Trkw7vHcabOEh79NphGB8KNhbf (เนื้อหาเยอะ อธิบายช้า แต่ดีเหมือนนิทาน เข้าใจง่าย ใช้ดูถึง 4 ขวบด้วยจะดีมาก)

เรื่องตัวเลข (1-10)

เหมาะกับ 2 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=SkXfvAjZjFk&list=PL64DCB1FB9E605E61

https://www.youtube.com/watch?v=OuSCWSiyh5c&index=8&list=PL64DCB1FB9E605E61

https://www.youtube.com/watch?v=d7klXv1KoBM&list=TL8HYSXjCkj2I

เหมาะกับ 4 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=e0dJWfQHF8Y (เพลงช้า)

https://www.youtube.com/watch?v=GSyKf_Wiobs&index=2&list=PLxo-dln5FAAKJ1ltHh5svKqlrBzQWxj29 (เพลงเร็ว)

เรื่องผลไม้

เหมาะกับ 2 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=fwQaf3qK25Y

https://www.youtube.com/watch?v=9IjheKo-Z_g

เรื่องรูปทรง

เหมาะกับ 3 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=6I2N-jCbha8&list=PL64DCB1FB9E605E61

https://www.youtube.com/watch?v=or4ExiMRETE

เรื่องสี

เหมาะกับ 2 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=iU9RBvJDD70

https://www.youtube.com/watch?v=BamMV5-BkOs

คำตรงข้าม

เหมาะกับ 4 ขวบขึ้นไป

https://www.youtube.com/watch?v=zTz71WDOMwo

https://www.youtube.com/watch?v=5UW1Fp5Yu0k

ลิงค์ที่ให้ด้านบนเป็นลิงค์หลักๆ ที่อานะดูและเข้าใจง่ายสุด แต่ผปค.ท่านอื่นอาจกดลิงค์เชื่อมไปยังเรื่องอื่นที่สนใจได้อีกนะคะ

ทิ้งท้ายไปด้วยการ์ตูนปลอดภัยได้ความรู้เหมือนเตรียมตัวเข้าอนุบาล แนะนำ http://www.youtube.com/user/NurseryRhymeStreet

เตรียมพบกับเนื้อหาต่อไปเรื่อง VOWEL ในครั้งหน้านะคะ ขอตัวไปเลี้ยงลูกก่อนค่า 

NOF สกินแคร์บำรุงผิวอย่างปลอดภัยที่เราอยากแนะนำ

แบ่งปันประสบการณ์จริงของผู้ใช้ NOF

สกินแคร์บำรุงผิวที่คืนความกระจ่างใสให้แก่ผิวอย่างปลอดภัย

แก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัยให้ความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวนุ่มเนียนจนคุณรู้สึกได้

น้องปุ๋ย :: อายุ 25 ปี

อาชีพ :: พนักงานเอกชนแห่งหนึ่ง

น้องปุ๋ยเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ NOF และกล้าการันตีว่าผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น มีรอยแผลจากการกดสิวและผิวหน้าหมองคล้ำง่ายมาก

p7

ทำไมถึงเลือกใช้ NOF

–         รู้จักผลิตภัณฑ์นี้จากพี่ฝน fonkan ติดตามมาจาก Bloggang ได้อ่านเรื่องราวการรักษาสิว รวมทั้งเคล็ดลับการดูแลผิวของพี่เค้าตั้งแต่แรกเริ่มเป็นสิวจนหายเป็นปกติ เมื่อทราบว่าพี่ฝนได้ทำสกินแคร์แบรนด์ NOF มาเมื่อปีที่แล้วจึงลองสั่งมาใช้ดู ปรากฎว่าเห็นผลจริงไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด และมั่นใจได้จากการการันตีของพี่เค้าที่เป็นคนน่าเชื่อถือเป็นที่รู้จักมานานในโลกไซเบอร์และสินค้าของ NOF มีอย.ทุกตัว

ความรู้สึกที่มีต่อผลิตภัณฑ์ NOF

ชอบเนื้อผลิตภัณฑ์ของทั้ง 2 ตัวทั้งเซรั่มและครีมที่เมื่อทาผิวแล้วซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ และชอบที่ไม่มีสี ซึ่งต่างจากครีมทั่วไปที่ขายในอินเตอร์เน็ตบางครั้งเห็นสีก็ไม่น่าเชื่อถือแม้สรรพคุณจะดึงดูดให้อยากใช้ก็ตาม แต่ของ NOF ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัย เห็นผลจริงและไม่แพ้ วางใจได้ค่ะ

p2

ความรู้สึกเมื่อใช้  Vitamin C Serum

–         เลือกใช้เพราะมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ อยากได้ตัวช่วยที่ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส แบบไม่ต้องขาวเร็วเวอร์ เพราะส่วนตัวจะไม่ค่อยเชื่อถือคำโฆษณาชวนเชื่อของครีมบำรุงเร่งผิวขาวภายใน 7 วัน ซึ่ง Vitamin C Serum ของ NOF เป็นเซรั่มที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสได้เพียงแค่ขวดแรกที่ใช้ บางทีความสวยก็ไม่จำเป็นต้องเร่งเวลาให้รวบรัดภายใน 7 วันจริงไหมคะ ปุ๋ยใช้ Vitamin C Serum ทุกวันตอนเช้าและก่อนนอน ผลที่ได้ประมาณสัปดาห์ที่ 2 รู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น รอยแผลเป็นจางลง และชื่นชอบ Vitamin C Serum ของ NOF ตรงที่ว่าออกแดดแล้วไม่แสบผิว ก่อนหน้านี้เคยใช้ของยี่ห้ออื่นมาส่วนใหญ่วิตามินซีเหมือนกันแต่ใช้แล้วเมื่อเวลาถูกแสงแดดจะคันผิวบริเวณที่ทาหรือไม่ก็แสบแดงขึ้นเป็นรอยไหม้ แต่สำหรับ NOF ปุ๋ยใช้ Vitamin C Serum ได้อย่างปลอดภัยไม่แพ้เลยค่ะ

p8

ความรู้สึกเมื่อใช้ Revital Cream

–         เลือกใช้เพราะอยากได้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า เดิมทีเป็นคนผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ยิ่งอยู่ห้องแอร์จะรู้สึกผิวตึงง่ายมาก พอใช้พวกครีมบำรุงผิวทั่วไปตามท้องตลาดมักจะเหนียวเหนอะบนผิวจนทำให้เกิดการอุดตันตามมา แต่สำหรับ Revital Cream ของ NOF จะเป็นครีมที่ทาแล้วซึมสู่ผิวได้ค่อนข้างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วใบหน้านุ่มเนียนจนสัมผัสได้เมื่อใช้ติดต่อกันภายใน 1 อาทิตย์ โดยรวมผลหลังใช้กระปุกแรกจะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าชุ่มชื้น เมื่อแต่งหน้าเครื่องสำอางจะติดผิวหน้าดี หน้าที่เคยแห้งตึงกลับมาดีขึ้นจนรู้สึกได้ ยิ่งใช้คู่กับ Vitamin C Serum แทบไม่ต้องใช้ครีมบำรุงอีกหลายตัว เวลาไปไหนมาไหนก็พกพาง่ายใช้แค่ 2 ตัวเพียงพอสำหรับผิวปุ๋ยแล้วค่ะ

p9

ฝากถึงผู้ที่สนใจ NOF

– NOF เป็นผลิตภัณฑ์ที่วางใจได้เพราะได้รับเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยและโรงงานการผลิตก็น่าเชื่อถือไม่เหมือนพวกครีมที่ขายทางอินเตอร์เน็ตทั่วไปซึ่ง NOF สามารถตรวจสอบได้ และผิวบอบบาง แห้งและขาดความชุ่มชื้นอย่างปุ๋ยใช้แล้วดีขึ้นจริง ผิวหน้าไม่มีปัญหาใดๆ ตามมา ใช้แล้วมีแต่คนทักว่าดีขึ้น ชอบตรงที่ไม่มีสีและกลิ่นนี่แหละค่ะ เซรั่มที่เป็นวิตามินซีใช้แล้วไม่แสบหน้าเหมือนยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มา สนใจผลิตภัณฑ์ NOF สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ kieng13@hotmail.com ทาง Line ไอดี : kieng หรือแฟนเพจของพี่ฝน  www.facebook.com/fonkandotcom อัพเดทโปรโมชั่นดีๆ ให้ทุกเดือนซึ่งน่าสนใจมากค่ะ

nof

ข้อมูลเพิ่มเติม :: ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ NOF บรรจุภัณฑ์สวยงาม เนื้อสกินแคร์ไม่มีสีหรือแต่งกลิ่นใดๆ ไม่มีน้ำหอม ปลอดภัย มีเลขที่จดแจ้งอย่างถูกต้องและรายละเอียดบนกล่องรวมทั้งบนตัวผลิตภัณฑ์ชัดเจนมาก ผลิตจากโรงงานเครื่องสำอางที่ได้รับมารตรฐานแท้จริง (โรงงานผลิตเครื่องสำอางมาตรฐาน http://www.junelaboratories.com/about_th.htm

สินค้าเรามี 2 ตัว คือ Vitamin C Serum 20 ml กับ Revital Cream 10 g.

Vitamin C Serum (เลขที่จดแจ้ง 10-1-5524490)
ขนาด 20 ml.
ราคา 1290 บาท

Revital Cream (เลขที่จดแจ้ง 10-1-5530010)
ขนาด 10 g
ราคา 890 บาท

เลี้ยงลูกอย่างไร..ให้ได้แบบอานะ?!

ที่ต้องเขียนบทความเรื่องนี้เพราะมีหลายคนถามมากันมาก คุณฝนเลี้ยงลูกแบบไหน ทำไมอานะเก่งจัง ท่องสูตรคูณได้ ท่องศัพท์ได้เยอะทั้งๆ ที่อายุแค่ 3 ขวบเอง แต่สำหรับฝนเองยังมองว่าเค้าไม่เก่งเท่าไหร่ แค่มีความสามารถพิเศษเป็นบางเรื่อง เช่น ความจำ

อานะจะจำได้ดีกับสิ่งหรือเรื่องราวที่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข  แต่ถ้าเป็นโหมดศิลปะหรือนันทนาการตามวัยฝนก็ให้คะแนนต่ำสุดจนถึงกลางๆ โดยเฉพาะการวาดภาพ ระบายสี งานประดิษฐ์ อานะทำได้ไม่ดีเหมือนเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน ถ้าจะนั่งเพ่งดูแล้วศิลปะของอานะค่อนข้างจะแอบสแตกอาร์ต (555 ขอประชด)  แต่ก็ไม่ซีเรียสเพราะทางบ้านเราก็ไม่ได้กดดันหรือบังคับว่าจะต้องทำให้ได้เค้ายังเด็กอยู่ อีกอย่างนิสัยส่วนตัวอานะเป็นคนมีตรรกะ มีความคิดแบบเป็นความจริง ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องใช่ จับต้องได้ มากกว่ามีจินตนาการ ดังนั้นบางทีการเล่นบทบาทสมมติของอานะจะไม่เล่นเวลาอยู่บ้าน ไม่เล่นหุ่นยนต์ ไม่เล่นรถโมเดล รถราง ไม่เล่นของเล่นที่เป็นเรื่องราวรอยเรียงแบบคิดและจิ้นคนเดียวว่าเราเป็นนู่นนี่นั่น  

บางครั้งพ่อแม่และยายต้องชวนเล่นเพื่อให้สมกับพัฒนาการของวัยปัจจุบัน (3-4ปี) บ้าง แต่ของเล่นอานะก็ยังคงเป็นของจริงอยู่ดี อานะเลือกที่จะกดไมโครเวฟเอง ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าของจริง ใช้ไม้กวาดที่โกยผงจริงไม่ใช้ของเล่นที่เสมือนจริง ค้อนถ้าเป็นของปลอมก็ต้องไปหาชิ้นส่วนตอกหรือประกอบอะไหล่จริงประมาณนั้น

ตัวอย่างงานศิลปะของอานะในคาบเรียนที่นำกลับมาอวดทางบ้าน ลองเพ่งดูนะคะในงานศิลปะนั้นเราจะเห็นตัวอักษร A B C แฝงอยู่ เหมือนเค้าไม่ได้อยากระบายแต่อยากเขียนมากกว่า คำสั่งว่าให้ระบายสีจากคุณครูอานะจึงทำตามแบบขอไปที คือขีดๆ ให้ทั่วไปงั้น

รูปภาพ

ซึ่งถ้าผู้ปกครองหลายท่านอ่านถึงตรงนี้อาจรู้สึกว่าอานะจะเครียดไปไหมที่เป็นแบบนี้ อยู่บ้านจะเล่นอะไร? มาชมกันจ้าของเล่นอานะกับมุมโปรดจะเป็นตัวอักษร A-Z สะส่วนใหญ่ มีตัวเลขบ้างเพื่อประสมคำตามคำสั่ง และสัตว์จำลองเพื่อทบทวนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ อานะจะชอบเล่นแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันและพัฒนาไปจนถึงขั้นสะกดคำภาษาอังกฤษต่างๆ ได้เองตามเรื่องราวที่คุณครูได้สอนมา หรือถ้าอานะสนใจคำศัพท์ไหนเค้าจะมาถามเราให้เราบอกและไปหยิบแม่เหล็กภาษาอังกฤษมาประกอบจนเป็นคำได้ สื่อภาษาไทยมีบ้างแต่อานะไม่ค่อยชอบ ถ้าเป็นสื่อตัวเลขที่เป็นสูตรคูณแม่ต่างๆ อานะจะชอบรองมาจากสื่อภาษาอังกฤษมาก

นับว่าเป็นช่วงอายุ  3 ขวบที่หลายบ้านบอกว่าอานะมีพัฒนาการที่เร็วกว่าเด็กบ้านอื่น ตอนนี้อานะจดจำคำศัพท์เพื่อสะกดเองได้มาก ผสมคำเองและอ่านได้เอง เช่น นำแม่เหล็กมาติดเป็นตัวหลักแค่ AT จากนั้นก็เอา C มาใส่เพิ่มตัวหน้า (CAT) เอา F มาใส่ (FAT) ก็อ่านได้เองว่า “แอด” “แคท” “แฟด” ความสามารถตรงนี้ต้องขอบคุณคลิปในยูทูปที่สอนให้อานะรู้จักการเรียนรู้และดัดแปลงมาใช้เอง ถ้าคุณแม่ท่านไหนสนใจค้นคำว่า “Vowels” ตัวอย่าง Letter I Song ของ Have Fun Teaching ลองเปิดให้ลูกดูบ่อยๆ นะคะ อานะจะชอบสื่อแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นอานะจะไม่เปลี่ยนช่องและดูได้นานสามารถดูซ้ำๆ ไม่มีเบื่อ

รูปภาพ

Memomy Card ของอานะ 

– ไม่รู้เหมือนกันว่าอานะทำไมจำอะไรได้เร็วมาก บางอย่างสอนแค่ 1 ครั้ง หรือภายใน 10 นาทีอานะก็จำได้ เช่น อ่านคำศัพท์ 7 วัน (Monday – Sunday) ตอน 2 ขวบครึ่ง แต่สิ่งที่คิดว่าเกี่ยวแน่ๆ คือ ตั้งแต่ 1 ขวบเรื่อยมา อานะจะฟังและดูสื่อใน VCD หรือยูทูปที่เคลื่อนไหวช้าอยู่ซ้ำๆ เป็นเพลงภาษาอังกฤษสอนเรื่องภาษามาตลอด ตอนกล่อมให้หลับฝนก็ท่องสูตรคูณ คราวนี้พอถึงช่วงเวลาที่เราต้องการสอนให้จำจริงๆ เค้าจำได้เองไวมากเหมือนมีความคุ้นเคย

ความสามารถพิเศษของอานะเริ่มตั้งแต่อายุ 2.9 – 3.3 ปี ชมได้จากลิงค์ด้านล่างนะคะ

1. ท่องสูตรคูณ แม่ 2 (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=HZJdlGJhVuk)

2. ท่องสูตรคูณ แม่ 3 (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=xB17GrsP2pw)

3. ท่องสูตรคูณ แม่ 4-5 (ชมได้จาก http://youtu.be/skQzgPgLlpc)

4. ท่องสูตรคูณ แม่ 6 (ชมได้จาก http://youtu.be/ass6Ee5faAs)

5. ท่องสูตรคุณ แม่ 7 (ชมได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=W0iFU-g4MjI)

6. ท่องสูตรคูณ แม่ 8 (ชมได้จาก http://youtu.be/6jQEFqqQ-_k)

7. ท่องสูตรคูณ แม่ 9 (ชมได้จาก http://youtu.be/_y7_zaemCAk)

8. ท่องสูตรคูณ แม่ 10-12 ได้แล้ว รออัดคลิปลงยูทูป

9. เขียน A-Z (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=w7u85gKxutI)

10. เขียนชื่อเพื่อน+ชื่อตัวเอง (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=o8PlZ-BMy90)

11. จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 12 เดือนได้ (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=9Lq_k-uVFK4)

12. จำคำศัพท์ภาษาอังกฤษวันทั้ง 7 ได้ (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=9Lq_k-uVFK4)

13. จำคำศัพท์หมวดสัตว์จากการ์ดได้ 56 คำ (ชมได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=eoH6MPlHlL4)

14. จำคำศัพท์หมวดของใช้ในโรงเรียนจากการ์ดได้ 56 คำ (ชมได้จาก http://youtu.be/B5va8E1XA_4)

15. จำคำศัพท์หมวดของใช้ในบ้านจากการ์ดได้ 56 คำ (ชมได้จาก http://youtu.be/IHt8ZWfps8M)

16. จำคำศัพท์ฤดูได้ 4 ฤดู คือ Spring , Summer , Atumn , Winter (ไม่ได้อัดยูทูปเพราะมันสั้นไว้รวบรวมให้ทีเดียว)

17. นับเลขเป็นภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ 1-100 (กำลังจะอัดให้ชมเร็วๆ นี้)

18. รู้จักแปลงการท่อง A-Z ให้เป็นเสียง Phonic Song เช่น /a/ /b/ /c/ เออะ เบอะ เคอะ ฯ (ลงไว้ใน IG : fonkanana)

20. อายุ 3 ขวบฝึกกอล์ฟ รอโปรจับวงช่วง 4 ขวบ (ชมได้จาก http://youtu.be/rukVUQWOqeU  / http://youtu.be/3cU2XGOMdrA )

21. เริ่มต้นเรียนเปียโนที่ Song Bird ตอนอายุ 3 ขวบ (ชมได้จาก http://youtu.be/Vp_qssXf1pQ )

สิ่งแวดล้อมสำคัญมาก

เคยเขียนไว้ในบทความที่แล้วเกี่ยวกับพัฒนาการอานะว่าการที่อานะพูดช้าส่วนหนึ่งสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องด้วย (ลองย้อนกลับไปอ่านดู) ฝนจะไม่ทิ้งลูกใกล้สื่อ เช่น ไอแพต มือถือ หรือของเล่นที่ไร้สาระมากนัก ถ้าเราจะให้ลูกอยู่กับสิ่งที่เราไม่ต้องการ เราเองก็ต้องคอยดูแลอย่างทั่วถึงและมีเวลาอยู่เล่นเป็นเพื่อนลูก สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ อย่าให้อาม่า อากง ปู่ ย่า ตา ยาย มีอิทธิพลมากกว่าการเลี้ยงดูของพ่อแม่ เราเลือกให้ลูกได้เสมอ อย่าให้บุคคลอื่นเข้ามามีบทบาทหรือสร้างอิทธิพลต่อพัฒนาการลูก วันหนึ่งถ้ามีอิทธิพลมากกับชีวิตเด็ก ลูกเราก็จะเอามาสร้างเงื่อนไขหรือหนีเราไปหาสิ่งที่เค้าชอบมากกว่า เช่น เด็กจะเลือกไปหาคนที่ใจดี ให้ของเล่นง่าย อานะถูกเลี้ยงคนละบ้านกับสิ่งแวดล้อมที่ตามใจ มาอยู่กับพ่อแม่อานะก็ต้องมีระเบียบวินัย เชื่อฟังพ่อแม่ จนบางทีอานะไปบ้านอากง อาม่า ก็ติดใจไม่อยากกลับบ้าน เพราะที่นั่นมีคนเอาใจ ให้กินช๊อคโกแลต ให้กินปีโป้ และมีผู้คนเยอะแยะอานะก็ชอบเล่นกับคนที่โตกว่า ทำให้รู้สึกไม่เหงา

แต่สิ่งที่ติดกลับมาบ้าน คือ ความไม่เป็นระเบียบ ความไม่เอาใจใส่กับสิ่งที่เราบอกและร่ำร้องที่จะไปใหม่ ใจจริงอยากจะจัดสิ่งแวดล้อม 2 บ้านให้เหมือนกันแต่มันทำไม่ได้ ที่นู่นเป็นสไตล์ออฟฟิต (โรงงาน) จัดวางให้เป็นสไตล์เด็กอ่อนได้ไม่นานก็กลับมาวางเอกสารใหม่ แต่ที่บ้านอาศัยหลักเป็นบ้านพักอาศัยโดยแท้จะทำอะไรยังไงก็คือบ้าน เคยถามคุณหมอเด็กตอนที่ไปให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสไตล์การเลี้ยงลูกของแต่ละบ้านกับนิตยสาร Real Parenting คุณหมอบอกว่าถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมตามใจไม่บ่อยก็ไม่เป็นไร ถือสะว่าเป็นการพักผ่อนให้เด็ก บางทีเราก็ขัดผู้ใหญ่ไม่ได้อย่าให้ต้องมีปัญหาทางบ้านตามมา ดังนั้นเมื่อเด็กกลับมาบ้านก็ต้องคอยบอกคอยสอนว่าลูกจะต้องดำเนินชีวิตแบบที่เป็นอยู่ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านอากง อาม่า แรกๆ อาจจะยังไม่เข้าใจแต่หลังๆ เค้าจะเข้าใจเองค่อยๆ พูด อย่าเอาของเล่นเป็นตัวล่อไม่งั้นเด็กจะสร้างเงื่อนไขกับเราได้ตลอดมันเป็นการสร้างวิธีเอาตัวรอดต่อไปยันโตได้

รูปตัวอย่างของเล่นบางส่วนที่ซื้อให้อานะ นับเป็น 1 ในสิ่งแวดล้อมที่บ้านเราจัดหาไว้ให้แทนของเล่นเด็กทั่วไป ที่บ้านเราจะมีแต่สื่อการเรียนการสอนเพราะอานะชอบ เคยซื้อเลโก้ให้แล้วแต่อานะไม่เล่น ถ้าเป็นสื่อเช่นในรูปอานะจะสนใจมากกว่า แรกๆ แปลกใจมากทำไมลูกเราไม่ชอบของเล่น ไปร้านของเล่นก็ไม่เคยร้องจะเอาหุ่นยนต์หรือรถ ถ้าไปร้านหนังสือจะชอบมากกว่าและอานะจะเลือกหน้าปกอะไรก็ได้ที่มีอักษร A B C หรือตัวเลข อานะมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่เริ่มพูดเริ่มเดินได้และติดมาจนปัจจุบัน

IMG_0404

วิธีจดจำของอานะ

อานะจะเป็นเด็กที่ช่างซักถามเกี่ยวกับความรู้อยู่แล้ว เช่น ตัวนี้อ่านว่าอะไร ตัวนี้สะกดยังไง แรกๆ จะงงว่าถามทำไมจำได้เหรอ มาสังเกตดูทีหลังอานะจำได้จริงๆ ก็อึ้งเลย ดังนั้นต่อไปนี้วิธีการสอนที่ทางบ้านให้แก่อานะทุกอย่างต้องเป็น “Fact” ความจริงอย่างมีเหตุผล ฝนจะบอกยายไว้ด้วยว่าถ้าตอบอานะไม่ได้ไม่ต้องตอบ ส่งให้คนอื่นตอบ อย่าพูดเรื่องไร้สาระให้อานะฟัง เช่น ผี ตุ๊กแกกินตับ ฯ คือ มันไม่มีจริง มันเป็นสิ่งที่หลอกเด็ก ไม่ใช่ว่าทางบ้านเราเรื่องมาก แต่ฝนเอาวิธีนี้มาจากดารา 2 ท่าน ตอนฟังครั้งนั้นยังไม่ได้ท้องด้วยซ้ำ แต่รู้สึกว่าการสอนลูกแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง วันหนึ่งถ้าฉันมีลูกฉันจะเลี้ยงแบบนี้เพราะมันคือสิ่งที่จะติดตัวเด็กไปยันโต

– เรื่องผี เอามาจากการสั่งสอนลูกของคุณกิ๊ก สุวัจนี เธอเป็นนางร้ายที่นอกจอเลี้ยงลูกได้ดีมากๆ อะไรที่เธอกลัวเธอจะไม่ใส่ไปในสมองลูก เธอเป็นคนที่กลัวผีมากจนเคยบาดเจ็บจากการโดนหลอกผีจากพี่น้อง มาถึงวันที่เธอมีลูกเธอก็สั่งสอนและบอกคนทั้งบ้านว่าไม่ให้ใส่หัวเรื่องผีกับเด็ก เพราะผลที่ตามมาจะทำให้เด็กเกิดความขลาดกลัวไม่กล้าที่จะทำอะไรด้วยตัวเองในวัยเด็กและอาจทำให้ติดมายันโต ถึงแม้จะมีการพิสูจน์แล้วว่าผีไม่มีจริงจับต้องไม่ได้แต่ความกลัวมันฝังหัวไปจนแก้ไม่ได้อีก

เรื่อง Fact ความจริงทุกอย่างต้องมีเหตุและผล ฝนเอามาจากการสั่งสอนลูกของคุณฟลุ๊ก เกริกพล เคยดูรายการครอบครัวคุณฟลุ๊คจะสอนว่าถ้าเราสอนลูกควรสอนสิ่งที่เป็นจริงเพราะระบบความจำของเด็กจะเริ่มจำตั้งแต่เริ่มถาม ถ้าเค้าไม่อยากรู้จะไม่ถาม ถ้าเราใส่สมองแต่เรื่องเท็จเข้าไปเค้าก็จะเลือกจำในสิ่งแรกที่เราโกหก วันหนึ่งมาแก้ไขมันจะช้าไป ถ้าตอบไม่ได้คือไม่ได้ ทุกอย่างที่คุณฟลุ๊คสอนลูกส่วนใหญ่จะเปิดหนังสือตอบหรือไม่ก็ต้องค้นกุเกิ้ลตอบในกรณีที่ความรู้พ่อแม่ตอบไม่ได้จริงๆ 

ติดตามตอนต่อไปในบทความหน้าซึ่งจะเป็นวิธีการเลือกชมข้อมูลบนสื่อยูทูปและการเลือกการ์ตูนให้ลูก ในสไตล์ที่ฝนเลี้ยงอานะ วันนี้ขอไปเลี้ยงลูกอ่อนก่อนนะคะ 🙂

ความรู้ใหม่เรื่องประโยชน์ของ “บิฟิดัส”

วันก่อนที่ไปตรวจครรภ์ก่อนคลอด 3 อาทิตย์กับคุณหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอคุยให้ฟังถึงเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของลูกจะเริ่มต้นที่จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในทางเดินอาหาร เราก็งงๆ มาพูดให้ฟังทำไมเลยถามว่ามันจำเป็นสำหรับเด็กสมัยนี้เหรอ? สมัยอานะไม่เห็นคุณหมอแนะนำ คุณหมอเลยเล่าให้ฟังที่แนะนำเพราะเห็นว่าตัวฝนเองก็มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ระบบทางเดินอาหารไม่ดี (ตามที่เคยโพสใน FB แล้วว่ามีอาการหนักมากในท้อง 2 นี้จนต้องไปรพ.) อีกทั้งฝนเองเคยเล่าให้คุณหมอฟังว่าอานะ (ลูกคนแรก) เจ็บป่วยง่ายมากๆ คุณหมอจึงอยากให้น้องอานา (ลูกคนที่ 2 ) มีภูมิคุ้มกันที่ดีและควรเสริมภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้ตั้งแต่ในท้องหรือหลังคลอดจนถึงอายุ 3 ปี ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ดีจะช่วยให้ร่างกายไม่เจ็บป่วยง่าย เด็กที่เกิดมาจะมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

เท่าที่ฟังคุณหมอแนะนำก็นับว่าจำเป็นจริงๆ เพราะว่าอานะเองก็ได้รับนมแม่ไม่ถึง 6 เดือน ลูกคนแรกเลี้ยงดูอย่างลองผิดลองถูก อานะเองก็เจ็บป่วยง่ายมากยิ่งตอนนี้เข้าเตรียมอนุบาลเห็นชัดมากว่านิดหน่อยก็ต้องหยุดเรียนเหมือนภูมิคุ้มกันไม่ดี พัฒนาการค่อนข้างช้าบางเรื่องตามที่เคยเขียน Blog ไว้ครั้งที่แล้วว่าค่อนข้างช้ากว่าเด็กทั่วไปอาจจะเกี่ยวเนื่องก็เป็นได้

คุณหมอบอกว่านมแม่เป็นโภชนาการที่ดีที่สุดควรให้ลูกกินนมแม่ไปให้ได้นานเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้กับลูกตั้งแต่วันแรก หากมีความจำเป็นทำให้ไม่สามารถให้นมลูกได้ ควรเลือกโภชนาการเสริมที่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ เพราะระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของมนุษย์เราจะเริ่มต้นที่ระบบทางเดินอาหาร โดยทางเดินอาหารนอกจากจะทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารแล้ว ยังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย เพราะ 80% ของเซลล์สร้างภูมิคุ้มกันจะอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีจุลินทรีย์อยู่ภายในกว่า 400-500 สายพันธุ์ ทั้งนี้เด็กจะได้รับภูมิคุ้มกันจาก 2 ส่วนคือ ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากมารดา และภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นเอง โดยในช่วงแรกเกิด ทางเดินอาหารของเด็กจะปราศจากเชื้อ เด็กจึงได้รับจุลินทรีย์ธรรมชาติจากนมแม่และสิ่งแวดล้อม

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เด็กควรได้รับนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน หรือนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะการให้นมแม่นอกจากจะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกแล้ว นมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน อีกทั้งยังมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ได้แก่ “บิฟิดัส” ซึ่งประกอบด้วยจุลินทรีย์ 2 สายพันธุ์ คือ “บิฟิโดแบคทีเรียม” และ “แล็คโตบาซิลัส” ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ทารกที่ได้รับนมแม่แข็งแรงและมีสุขภาพดี โดยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จะช่วยลดอาการท้องเสีย และการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ

พอฝนกลับมาบ้านเลยค้นหาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง “บิฟิดัส” ทางอินเตอร์เน็ตอีกก็พบว่ามันจำเป็นจริงๆ

จุลินทรีย์สุขภาพ(บิฟิดัส)เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกคนมีสุขภาพดี แข็งแรง มนุษย์เราจะได้รับจุลินทรีย์ตัวนี้โดยอัตโนมัติอยู่แล้วตั้งแต่แรกเกิด ด้วยวิธีการคลอดแบบธรรมชาติ และน้ำนมมารดา

จุลินทรีย์มีประโยชน์กับร่างกายคนเราถึง 3 ระดับ คือ

ระดับที่ 1 มีผลต่อลำไส้ ในการจับกับผนังเยื่อบุทางเดินอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคเข้าไป สัมผัสกับเซลล์เยื่อบุ รวมไปถึงการปล่อยสารยั้บยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค

ระดับที่ 2 มีผลดีต่อเยื่อบุผิว ช่วยทำให้ชั้นเยื่อบุในทางเดินอาหารเรียงตัวแน่นขึ้น เพื่อกันไม่ให้เชื้อโรครุกล้ำผ่านเข้าไปได้ รวมถึงทำลายตัวรับสารพิษ (Toxin Receptor) อีกด้วย

ระดับที่ 3 มีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด (Innate Immunity) และควบคุมการทำงานของเดนดริติกเซลล์ (Dendritic Cell) และเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหาคือหลายปีที่ผ่านมาสถิติการคลอดเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่คลอดแบบธรรมชาติมีน้ำนมเพียงพอสำหรับทารก กลับค่อยๆ มีอัตราการผ่าตัดคลอดและมีน้ำนมไม่เพียงพอหรือไม่มีน้ำนมให้ลูกเลยเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ รวมถึงการผ่าตัดคลอดแบบปลอดเชื้อ การที่ทารกมีโอกาสสัมผัสกับจุลินทรีย์น้อยลง อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหลังคลอดพัฒนาล่าช้ากว่าปกติ ส่งผลต่อความเสี่ยงการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบและโรคติดเชื้อ

ซึ่งท้องครั้งที่ 2 นี้ฝนเองก็ต้องใช้วิธีการคลอดแบบผ่าตัด ดังนั้นที่คุณหมอแนะนำเรื่อง “บิฟิดัส” นับว่าน่าสนใจและจะพยายามให้น้องอานาได้รับนมแม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจากประสบการณ์เลี้ยงอานะมาแล้ว คงจะปรับการเลี้ยงดูสำหรับน้องอานาเสียใหม่ให้ได้รับนมแม่หรืออาหารเสริมที่มีประโยชน์มากที่สุด เพราะเรื่องพัฒนาการลูกเป็นสิ่งสำคัญ กว่าอานะจะเข้าที่เข้าทางก็ค่อนข้างนาน

แต่คุณหมอก็แนะนำมาอีกว่าไม่ต้องซีเรียสถ้าน้ำนมไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงลูกเรายังมีทางเลือกอื่นอีก เพราะสมัยนี้นมผงสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ยุคใหม่มีส่วนผสมของบิฟิดัสแล้ว ซึ่งช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันที่กล่าวมาข้างต้นได้เหมือนกัน  เพียงคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มเป็นประจำก็ส่งผลให้กับลูกน้อยในครรภ์ รวมทั้งคุณแม่หลังคลอดหากดื่มนมที่มีส่วนผสมของบิฟิดัสต่อเนื่องจะทำให้น้ำนมที่ให้ลูกน้อยมีประโยชน์สำหรับเด็กเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ยิ่งขึ้น เด็กก็จะไม่เจ็บป่วยง่าย เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนวิวัฒนาการเรื่องการเลี้ยงดูลูกก็พัฒนาขึ้นด้วย  การที่นมผงมีฟิบิดัสเป็นส่วนประกอบแบบนี้อย่างน้อยก็ทำให้คุณแม่คลายกังวลและยิ่งมั่นใจได้ว่าลูกเราจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้เช่นกัน

อีกไม่กี่อาทิตย์ก็คลอดแล้วตื่นเต้นจังเลย… กำหนดคลอดครั้งนี้เลือกวันคริสต์มาสเลยนะ อยากให้น้องอานาเป็นของขวัญให้อานะจอมแสบ เย้ๆ อานะจะเป็นพี่ชายแล้วนะครับ ^.^

_DSC2961

เพลงแต่งงาน Fon&Kieng

Love You : Joanna Wang

I love you, say we’re together baby, you and me

I can only give my life and show you all I am

ฉันรักเธอ พูดซิว่าเรามีกันและกัน เธอกับฉัน

ฉันสามารถมอบชีวิตของฉันให้ได้ และสามารถแสดงให้เธอได้เห็นทั้งหมดที่ฉันมี

in the breath I breathe

I will promise you my heart

ให้เธอได้ทั้งหมดที่ฉันหายใจ

ฉันจะสัญญากับเธอด้วยหัวใจ

and give you all you need if it takes some time

and if you tell me you don’t need me anymore

และให้เธอได้ทั้งหมดที่เธอต้องการ หากฉันมีเวลา

และถ้าเธอบอกฉันว่าเธอไม่ได้อยากได้อะไรจากฉันอีกต่อไป

that our love won’t last forever

I will ask you for a chance to try again

to make our love a little better,

นั่นหมายความว่า รักของเราจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว

ฉันจะขอเธอ ให้เธอให้โอกาสฉันพยายามอีกครั้ง

กับการที่จะทำให้รักของเรานั้นดีขึ้น แม้จะเพียงไม่มากก็ตาม

ooh…

I love you, say we’re together baby,

say we’re together, oh

โอ้ ฉันรักเธอ พูดสีว่าเรามีกันและกัน ที่รัก

พูดว่าเรามีกันและกัน

I need you, I need you forever baby, you and me

You say you hardly know exactly who I am

ฉันจำเป็นต้องมีเธอ ฉันต้องการมีเธอตลอดไปที่รัก เธอกับฉัน

เธอพูดว่าเธอลำบากที่จะรู้จักตัวตนของฉันที่แน่ชัดจริงๆ

so hard to understand

But I knew right from the start, the way I felt inside,

ยากที่จะเข้าใจ แต่ฉันรู้ว่ามันต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้น หนทางที่จะเข้าใจว่าฉันรู้สึกเช่นไร

if you read my mind

and if you tell you don’t need me anymore

หากว่าเธออ่านไปที่จิตใจของฉัน

และถ้าหากเธอพูดว่าเธอไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้ว

that our love won’t last forever, no

I will ask you for a chance to try again

นั่นหมายความว่ารักเราจะไม่เป็นตลอดกาลอีกแล้ว ไม่

ฉันจะขอโอกาสให้ฉันได้พยายามอีกครั้ง

to make our love a little better

I love you, say we’re together baby,

ต่อการที่จะทำให้รักของเรานั้น ดีขึ้น แม้จะเพียงนิดเดียว

ฉันรักเธอ พูดสิว่าเรามีกันและกัน

say we’re together, oh

I need you, I need you forever baby, you and me

พูดว่าเรามีกันและกัน

ฉันจำเป็นต้องมีเธอ ฉันต้องการมีเธอตลอดไป ที่รัก มีเธอกับฉัน

Remember when you used to hold me,

remember when you made me cry

ยังจำได้เมื่อเธอเธอได้กอดฉัน

จำได้ดีเมื่อเธอทำให้ฉันร้องไห้

You said you loved me, oh, you did, yes you did

เธอพูดมาว่าเธอรักฉัน โอ้ เธอพูด ใช่ เธอเคยพูด

I love you, say we’re together, baby, say we’re together, oh

I need you, I need you forever, baby, you and me.

ฉันรักเธอ พูดสิ ว่าเรามีกันและกัน ที่รัก เรามีกันและกัน

ฉันจำเป็นต้องมีเธอ ฉันต้องการมีเธอตลอดไป ที่รัก มีเธอ กับ ฉัน

ฝึกสมาธิลูกด้วยการปอกไข่

เหตุเพราะอานะไม่ค่อยชอบเล่นต่อบล๊อกหรือเล่นเลโก้ในช่วงนี้ ให้ทำอะไรที่ฝึกสมาธิล้วนโดนปฏิเสธตลอด จึงคิดว่าการปอกไข่คงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ วันนี้ให้ยายต้มไข่ไว้แต่เช้า โดยเลือกไข่นกกระทาให้อานะเพราะจะได้พอดีมือ

ผลสรุปว่าเด็กชอบมากมีสมาธิดี เห็นได้ว่าอานะมีความตั้งใจสูงอยากจะทำให้สำเร็จเพื่อเห็นเนื้อในสีขาวที่แตกต่างจากเปลือกภายนอก อานะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำอะไรด้วยตัวเอง

อุเหม่..ในวัย 2 ขวบ 11 เดือนผมก็มีความสามารถนะคร้าบบบ…

คุณแม่ท่านอื่นลองนำไปเล่นกับลูกดูนะคะ เป็นการฝึกสมาธิที่สนุกดี เราเองก็ลุ้นไปด้วยว่าจะรอดไหม แต่ความสามารถของเด็กไม่ต้องคาดหวังเรื่องความสวยงาม ผลจะออกมาเช่นไร เราต้องให้กำลังใจลูกน้อยเสมอ อย่างผลการปอกไข่ของอานะก็เป็นดังภาพ ฝนเองก็ชมว่า “อานะเก่งมาก แม่ทำไม่ได้เลย ไหนทำให้แม่ดูอีกทีสิครับ” จากนั้นอานะก็บรรเลงไข่อีกใบอย่างสนุกสนาน

Image